แล้วก็มาถึง วันสมัคร

และแล้วก็มาถึงวันที่ 14 ซึ่งเป็นวันรับสมัครของผู้ที่ต้องการจะบวช ผมก็มาถึงประมาณ เที่ยงตรง แล้วก็เดินไปที่โรงเรียนพุทธรรม ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัคร เมื่อเข้าไปก็พบว่ามีคนจำนวนมากนั่งรออยู่เพื่อทำการสมัคร ในตอนนั้นผมก็นึกดีใจขึ้นมาว่า คนมาสมัครเยอะแบบนี้ ตอนท่องคำขานนาคคงสบายแน่ๆ เพราะสามารถดำน้ำได้ (555) หลังจากเข้าไปนั่งได้ซักพัก ก็มีพระมา แล้วแจ้งให้ผู้ที่จะมาสมัครเข้ามานั่งข้างใน ฝั่งขวามือ ส่วนผู้ติดตามให้ไปนั่งทางซ้ายมือ หรือด้านนอกก็ได้ แล้วท่านก็แจกใบสมัครพร้อมอธิบายวิธีกรอก โดยเน้นว่า เขียนให้ตัวใหญ่ๆ อ่านง่ายๆ แล้วท่านก็แจ้งว่าจะมีการสัมภาษณ์เป็นรายบุคคล เมื่อทุกคนส่งใบสมัครเสร็จแล้ว พระครูสมชายก็มา แล้วก็เรียกสมัภาษณ์เป็นรายบุคคล โดยให้ออกมายืนหน้าห้อง พร้อมพูดใส่ไมค์ซะด้วย ท่านจะให้แนะนำตัวก่อน ชื่อ นามสกุล อายุ การศึกษา แล้วก็เหตุผลที่มาบวช ส่วนที่เหลือท่านจะเป็นคนถามเอง เช่น ดื้อมั้ย สูบบุหรี่รึป่าว หรือบางที่ก็เรียกผู้ปกครองเข้ามาถามเลยก็มี สรุปแล้ววันนี้มีคนสมัครมา 108 คน ซึ่งผมคิดว่ามันเยอะมากๆๆ หลังจากนั้นท่านก็แจ้งให้ทราบว่าจะต้องมาสอบท่องบทขานนาค ในวันที่ 21 ก.พ. ซึ่งเป็นการสอบเดี่ยว เท่านั้นแหล่ะครับ เหงื่อผมตกเลยสอบเดี่ยวแถมตั้งประมาณ 1 หน้ากระดาษ A4 แน่ะครับ ท่านบอกว่า ถ้าตั้งใจก็ท่องได้อยู่แล้ว ผมก็......สู้ๆๆๆ

ทำไมถึงคิดจะบวช

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2553 นี้ ผมจะบวช เพื่อเข้าไปศึกษาพระธรรม รวมทั้งเพื่อทดแทนคุณของคุณพ่อคุณแม่ ด้วย โดยจะบวชอยู่ที่วัดชลประทานรังสฤษณ์ ซึ่งจริงๆแล้วตอนแรกผมอยากจะบวชที่วัดเทพศิรินทร์ เพราะผมเคยเรียนมัธยมที่นั่น ก็เลยมีความตั้งใจไว้ว่า ถ้าอยากบวชก็อยากจะบวชวัดเทพฯ
ตอนที่ผมบอกใครๆว่า "อยากบวช" หรือบอกว่า "จะบวชแล้วนะ" มักจะมีคำถามกลับมาว่า "ทำไมถึงจะบวช" ผมก็ลองถามตัวเองดูเหมือนกันว่า"ทำไม" ก็มีคำตอบได้ว่า จริงๆแล้วผมมีความคิดที่อยากจะบวชนานแล้ว แต่ก็ติดว่า ต้องอยู่ร้าน ขายของ จะหาให้ใครมาอยู่แทนนานๆ ก็ไม่มี อีกอย่างเราก็ต้องคอยซื้อของมาเติมตลอด ทิ้งร้านไปนานๆ ไม่ดีแน่
จนเมื่อผมดึงจอย ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผม มาหุ้นที่ร้าน ประจวบกับ ไผ่ เพื่อนที่อยู่แถวร้าน จะทำเสื้อส่งให้ผมขาย จึงเท่ากับว่า เงื่อนไขทั้งสองของผมก็แทบจะหมดไป เพราะผมมีคนอยู่ร้านให้ แล้วไผ่ก็คอยทำเสื้อส่งให้ ขอเพียงให้ อะไรๆลงตัวซักหน่อย ผมต้องพอมีเวลาได้บวชแน่ๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้น ผมก็เลยไปบอก พ่อ กับ แม่ ว่า "กรรณอยากบวชครับ" พ่อกับแม่ก็ดีใจมาก แล้วก็ถามว่าอยาก บวชวัดไหน จะบวชกี่วัน แล้วเรื่องที่ร้านจะทำยังไง ผมก็อธิบายไป........ แม่ก็บอกว่าจะไปให้เพื่อนไปถามรายละเอียดที่วัดเทพฯให้ รวมถึงไปดูฤกษ์ด้วย ว่าจะบวชวันไหนดี สึกวันไหนดี
แต่ไปๆมาๆ แม่ก็มาบอกว่า อยากให้บวชที่วัดชลประทานฯ เพราะมีพระบอกมาว่าให้บวชวัดนี้สิ...ดี ไอ้ตัวกระผมนั้น..........ก็อย่างที่บอกว่าอยากบวชวัดเทพฯ แต่ก็คิดว่า บวชที่ไหนก็ได้ ขอให้ได้บวชก็พอ...ซึ่งมารู้ทีหลังว่า วัดนี้เคร่งมาก แต่..ก็ เอานะ ตั้งใจแล้วนี่.......

บวชแบบกระทันหัน

อันตัวกระผมนั้น.....จริงแล้วอยากจะบวชประมาณ ปลาย มี.ค. หรือไม่ก็ต้นๆ เม.ย. แต่เนื่องจากวันนั้น วันที่ 13 ก.พ. คุณแม่ก็พาที่วัดชลประทานฯ เพื่อใส่บาตร พร้อมทั้ง เพื่อที่จะไปถามรายละเอียดการบวช
ผมเคยมาวัดนี้แล้วครั้งนึงเมื่อตอนที่มางานศพของอาต้อย แต่ก็ไม่เคยได้เดินเข้าไปบริเวณลานหินโค้งเลย มาวันนี้ได้มีโอกาสเข้าไป บอกตามตรงว่าผมชอบบรรยากาศของที่นี่มากๆ ไม่ค่อยเหมือนวัดทั่วๆไป ที่ผมเคยไปมา มีต้นไม้ที่ให้ร่มเงาน ลานเปิดโล่ง แล้วรอบๆลานก็มีพระนั่งอยู่เพื่อรอให้คนมาใส่บาตร ส่วนคนที่มาใส่บาตร เมื่อใส่เสร็จ ก็จะมาปูเสื่อนั่งกันในบริเวณนั้น เพื่อรอพระฉันเช้า เมื่อพระฉันเสร็จก็จะมีสวดมนต์ กรวดน้ำ แล้วก็มีเทศนิดหน่อย ในใจผมก็คิดดีใจที่จะได้มาบวชวัดนนี้เพราะบรรยากาศสุดยอดจริงๆ
พอกรวดน้ำเสร็จ แม่ก็พาเข้าไปหาพระองค์นึง ซึ่งตอนแรกคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าอาวาส ต่อมาจึงรู้ว่าไม่ใช่ เมื่อเข้าไปใกล้ๆ ท่านก็ถามว่า "มีอะไรแม่ลูก" แม่ก็ตอบไปว่า "จะพาลูกชายมาบวชค่ะ" ท่าก็ถามว่า "คนไหน" ผมก็ยกมือขึ้น ท่านก็หันไปถามแม่ต่อว่า "ดื้อมั้ย" แม่ผมก็อมยิ้มนิดนึง แล้วก็ตอบกลับไปว่า "ไม่ดื้อค่ะ" ท่านก็บอกว่า พรุ่งนี้จะมีรับสมัครพอดี ให้พามาสมัครเพื่อฟังรายละเอียด ที่ตึกด้านหลัง เวลา 12.30 น. แล้วจะบวชในวันที่ 25 ก.พ. นี้ เท่านั้นแหล่ะครับ ในใจผมก็แป่ว ไปเลย เพราะมันเร็วกว่าที่ผมคิดไว้มาก แต่ก็คิดว่า เอาไงเอากัน ยังไงก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร แล้วพอกำลังจะลุกออกมา ท่านก็เรียก แล้วให้ขนม ที่คนเพิ่งเอามาถวาย พร้อมทั้งบอกว่า "มันเยอะ เอาไปกินระหว่างทางกลับนะ" อืม....วัดนี้แปลกกว่าวัดอื่นจริงๆแฮะ คงเป็นประสบการณ์ที่ดีที่จะได้มาบวชที่วัดนี้